การพัฒนาอย่างยั่งยืน

สารจากประธานกรรมการ

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

ปี 2567 เป็นปีแห่งการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) เรามุ่งมั่น ทุ่มเทกับการพัฒนาและปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจและความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งบริษัทฯ มองว่าเป็นโอกาสที่จะพัฒนาสินค้าและบริการ จากการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ จึงได้วางยุทธศาสตร์การเติบโตของธุรกิจครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่การขยายสาขาทุกรูปแบบ ไปจนถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการขายนอกร้าน ตอกย้ำบทบาทการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการค้าปลีกและค้าส่ง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในสินทรัพย์และรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเติบโตในระยะยาว

นอกจากนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจอัจฉริยะ (AI) และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อเข้าใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ บริษัทฯ เดินหน้ามุ่งเน้นการนำเสนอสินค้าคุณภาพดี ราคาคุ้มค่า ดีต่อสุขภาพ และใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเพิ่มสัดส่วนกลุ่มสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ (Private Label) ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้น รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่แข็งแกร่ง

การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของแผนพัฒนาองค์กร โดยเทคโนโลยีดิจิทัลและโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยของบริษัทฯ ได้ยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน บริษัทฯ ใช้ข้อมูลเชิงลึกรายบุคคลด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI-Hyper Personalization) และการวิเคราะห์กลุ่มลูกค้าอย่างเฉพาะเจาะจง (Micro Segmentation) เพื่อสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ที่แข็งแกร่งและสะดวกต่อการใช้งานยิ่งขึ้น ตอบสนองความต้องการของลูกค้าและตลาดอย่างรวดเร็ว เพื่อดึงดูดและรักษาลูกค้าให้กลับมาใช้บริการซ้ำในทุกช่องทาง

อีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของบริษัทฯ คือการเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์และสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยบริษัทฯ มุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์โดยการพัฒนาและลงทุนในทำเลยุทธศาสตร์ ทั้งในเมืองและพื้นที่ศักยภาพ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน อีกทั้งนำเสนอรูปแบบและขนาดสาขาหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ได้ดียิ่งขึ้น ให้เป็นศูนย์กลางชุมชนที่รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนทุกวัย ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ พิจารณาความสมดุลระหว่างการดำเนินงานด้วยตนเอง และความร่วมมือกับพันธมิตรในธุรกิจที่อาศัยความชำนาญเฉพาะด้าน ซึ่งอยู่บนพื้นฐานการเพิ่มผลตอบแทนและจำกัดความเสี่ยง

เมื่อต้นเดือนตุลาคมปี 2567 บริษัทฯ ได้ดำเนินการควบบริษัทระหว่างแม็คโครและโลตัสประเทศไทย ซึ่งนับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการเสริมศักยภาพขององค์กร ด้วยการมุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และลดความซ้ำซ้อนในการดำเนินงาน แต่ยังเปิดโอกาสในการเพิ่มผลตอบแทนและผลประกอบการอีกด้วย

นอกเหนือจากความสำเร็จด้านการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ ได้รับการยอมรับด้านความยั่งยืนจากหลายสถาบันและดัชนีระดับโลกและระดับประเทศ โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับการประเมินคะแนนความยั่งยืนจาก S&P ( S&P CSA Global Score) ถึง 84/100 อยู่ในอันดับ 4 ของอุตสาหกรรม Food & Staple Retailing ซึ่งแสดงถึงความก้าวหน้าและความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการพัฒนาด้านความยั่งยืนทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งลดผลกระทบจากการดำเนินงานต่อสิ่งแวดล้อม

ในนามของคณะกรรมการบริษัทและฝ่ายบริหาร ผมขอขอบคุณอย่างสูงต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน สำหรับความไว้วางใจและการสนับสนุนบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างผลประกอบการที่ดีตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ ผมขอขอบคุณพนักงานและผู้บริหารที่ได้ทุ่มเททำงานให้กับบริษัทฯ ตลอดปีที่ผ่านมา สุดท้ายนี้ ผมและคณะกรรมการบริษัท รวมทั้งฝ่ายบริหาร ขอให้ท่านเชื่อมั่นว่า บริษัทฯ จะมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับประเทศชาติ ชุมชน และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม